1. ตั้งชื่อตำแหน่งงานให้ชัดเจนและน่าสนใจ
-
หลีกเลี่ยงชื่อตำแหน่งที่คลุมเครือ เช่น “ต้องการพนักงานทั่วไป”
-
ใช้ชื่อที่ตรงกับตลาดงาน เช่น “นักการตลาดดิจิทัล (ดูแลแคมเปญออนไลน์)”
-
สามารถใส่รายละเอียดเพิ่ม เช่น “ระดับ Senior” หรือ “WFH ได้”
2. เน้นสิ่งที่บริษัทให้ได้ ไม่ใช่แค่สิ่งที่ต้องการ
-
โครงสร้างเงินเดือนและสวัสดิการ (ควรระบุเป็นช่วงหรืออย่างน้อยบอกว่าแข่งขันได้)
-
โอกาสในการเติบโต เช่น โอกาสขึ้นตำแหน่ง ฝึกอบรม skill ใหม่
-
วัฒนธรรมองค์กร เช่น สภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Hybrid Work
3. เขียนรายละเอียดงานให้กระชับและเป็นขั้นตอน
-
แบ่งเป็น หน้าที่รับผิดชอบหลัก และ คุณสมบัติผู้สมัคร
-
ใช้ bullet point เพื่อให้อ่านง่าย
-
ระบุความคาดหวังที่ชัดเจน เช่น “สามารถใช้งาน Google Analytics ได้”
4. ใช้ภาษาที่เป็นกันเองแต่ยังคงความเป็นมืออาชีพ
-
หลีกเลี่ยงภาษาทางการเกินไป
-
สามารถใส่ personality ของบริษัทลงไปได้
-
ตัวอย่าง: “เรากำลังมองหาคนรักการเรียนรู้ที่จะมาร่วมเติบโตไปด้วยกัน”
5. เพิ่มจุดดึงดูดพิเศษ
-
Highlight สิ่งที่ทำให้บริษัทคุณพิเศษ เช่น โบนัสตามผลงาน, วันหยุดพิเศษ
-
กระบวนการสมัครงานที่ง่าย เช่น “สมัครผ่านลิงก์นี้ใช้เวลาเพียง 3 นาที”
-
รูปภาพหรือวิดีโอแนะนำทีมงาน (หากโพสต์ในโซเชียลมีเดีย)
6. ตรวจทานก่อนเผยแพร่
-
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
-
ดูว่าประกาศงานตอบคำถามหลักๆ ของผู้สมัครหรือไม่
-
ให้เพื่อนร่วมงานช่วยอ่านเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน
ตัวอย่างประกาศงานที่ดี
ตำแหน่ง: Graphic Designer (รับสมัครทั้ง Full-time และ Freelance) หน้าที่:
-
ออกแบบสื่อการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
-
สร้างคอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดีย
-
ร่วม brainstorm ไอเดียกับทีมครีเอทีฟ
เรามีอะไรให้คุณ: 💰 เงินเดือน 25,000-40,000 บาท ตามประสบการณ์ 🎨 อุปกรณ์ทำงานครบครัน (Macbook Pro + Wacom) 🏠 ทำงานที่ออฟฟิศสัปดาห์ละ 3 วัน (เลือกวันได้)
คุณคือคนที่เรากำลังมองหาหรือไม่? ส่งผลงานมาที่ hr@company.com หรือสมัครผ่านลิงก์นี้…
ประกาศรับสมัครงานที่ดีคือการสื่อสารสองทาง ที่บอกทั้งสิ่งที่บริษัทต้องการและสิ่งที่บริษัทให้ได้ ใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อสร้างประกาศงานที่ดึงดูดใจ และได้ผู้สมัครคุณภาพมาสัมภาษณ์อย่างรวดเร็ว!
โพสต์ประกาศงานฟรีวันนี้ที่ JobDD.com ได้งานดี ได้คนดี